S L B news : “ศุภมาส” ห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ สั่งการ ม.นราธิวาสราชนครินทร์-มรภ.ยะลา-มทร.ศรีวิชัย-ม.อ.ปัตตานี ให้การช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วน ทั้งการแพทย์ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เครื่องยนต์ เครื่องไฟฟ้า จัดหาเครื่องอุปโภค-บริโภค เปิดระดมทุน พร้อมเตรียมแผนฟื้นฟูระยะยาว
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วาตภัย อุทกภัย และดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ตนมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน จึงได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยในพื้นที่ของกระทรวง อว. ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.) มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา (มรภ.ยะลา) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มทร.ศรีวิชัย) เข้าไปช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
โดย มนร. ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เป็นพื้นที่ประสบภัยหนักที่สุด โดยในวันที่ 25-27 ธ.ค.66 ได้เปิดครัวปรุงอาหารช่วยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่วิกฤตกว่า 900 ครัวเรือน พร้อมจัดหาและมอบถุงยังชีพกว่า 800 ชุด โดยพื้นที่ที่ มนร. ให้การช่วยเหลือ คือ อ.ระเเงะ อ.ยี่งอ อ.เมือง และ อ.สุไหงโกลก นอกจากนี้ ยังเปิด “ศูนย์ มนร. ห่วงใยวิชาชีพ รวมใจฟื้นฟูชาวนรา” เพื่อดำเนินการตรวจรักษาและให้คำแนะนำทางการแพทย์พื้นฐานในพื้นที่โดยแพทย์และพยาบาล นอกจากนี้ ยังมีบริการซ่อมแซมจักรยานยนต์ เครื่องตัดหญ้า เครื่องสูบน้ำ และเตาแก๊ส โดยช่างยนต์และเครื่องกล ซ่อมแซมพัดลม เตารีด หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน เครื่องปั่น หม้ออบลมร้อน และตู้เย็น โดยช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ซ่อมแซมกระเบื้องลอนคู่ และสังกะสีฝาผนังบ้าน โดยช่างก่อสร้าง
รมว.อว.กล่าวต่อว่า ขณะที่ มรภ.ยะลา และ มทร.ศรีวิชัย ได้ร่วมมือกับมูลนิธิซะกาตและสาธารณกุศล ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมลงพื้นที่ดูแลด้านการอุปโภค บริโภค และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะใน 3 อำเภอ คือ อ.รามัน อ.บันนังสตา และ อ.กรงปินัง ด้าน ม.อ.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่เปิดครัวที่ อ.สายบุรี และ อ.ทุ่งยางแดง ซึ่งได้รับผลกระทบหนักสุดในตอนนี้และมีการระดมทุนช่วยเหลือโดยศูนย์อาสาลูกพระบิดาร่วมกับ โครงการวิจัยแก้ปัญหาความยากจน จ.ปัตตานี พร้อมนี้ยังได้มีการวางแนวทางดำเนินการฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบระยะยาวหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายต่อไป
“นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. เข้าไปให้การช่วยเหลือ เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะนำกางเกงแก้วที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ไปแจกจ่าย เพื่อช่วยป้องกันการติดโรค เช่น ฉี่หนู น้ำกัดเท้า หรือป้องกันการติดเชื้ออื่นๆ ที่อาจมากับน้ำ และนำผลงานวิจัยเครื่องกรองน้ำ SOS ไปติดตั้ง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำดื่มที่สะอาดบริโภค
ขณะเดียวกัน ยังมีสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จิสด้า) ที่ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์
รวมถึงสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) ยังเปิดระบบ “ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้” พร้อมให้พี่น้องประชาชนใช้งาน อัปเดตสถานการณ์แบบ Real Time ทั้งปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ ระดับน้ำในแม่น้ำสำคัญ คาดการณ์ฝนตกล่วงหน้า คาดการณ์น้ำทะเลหนุน และพื้นที่น้ำท่วมในรอบ 7 วันที่ผ่านมา เพียงคลิกไปที่ เว็บไซต์ www.thaiwater.net เป็นต้น” นางสาวศุภมาส กล่าว