เมื่อ : 13 ก.พ. 2567

 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567

ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ “ดร.เอ้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว  “เอ้ สุชัชวีร์” โดยระบุว่า น้ำทะเลทะลัก ที่บางขุนเทียน ถึงสมุทรเจดีย์  ”กรุงเทพ กำลังจมทะเล” ปัญหาใหญ่ที่สุด ที่ถูกละเลย ท่านคิดว่าไง เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี เมื่อกรุงเทพทรุดลงทุกวัน เราจะทำอย่างไร เพื่อรักษาเมืองนี้ไว้ เพราะกรุงเทพ เป็นอีกเมือง ที่นักวิชาการทุกสำนักทั่วโลก พยากรณ์ไว้ว่า ไม่น่ารอด จากการจมทะเล ”หากไม่ทำการป้องกัน”

 

ดร.เอ้ ได้ออกมากล่าวย้ำถึงปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมพื้นที่กรุงเทพอีกครั้ง หลังวานนี้ (11-12 ก.พ.67) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นจนเข้าท่วมถนนในพื้นที่บางขุนเทียนถึงพระสมุทรเจดีย์ทำให้การจราจรเกิดปัญหา บ้านเรือนและชุมชนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยมีความห่วงใยคนกรุงเทพอย่างมากและมั่นใจว่า เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยุคนี้ ช่วยชีวิตคนกรุงเทพได้ เหมือนหลายเมืองที่เคยเจอปัญหาเดียวกัน

 

โดย ดร.เอ้ ได้ถอดบทเรียนน้ำทะเลหนุน จากเวนิส สู่ ประเทศไทย  “เวนิส”จากเมืองจมน้ำ วันนี้เเก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างไร ด้วยหลักวิศวกรรม โดยเวนิสได้มีการสร้าง MOSE System เป็นประตูจมน้ำลึกลงไป 30 เมตร ซึ่งในเวลาปกติจะนอนสงบนิ่ง แต่พอน้ำทะเลหนุนจะปั๊มอากาศไล่น้ำออกไป ทำให้ยกตัวสูงขึ้นกลายเป็นกำแพงกั้นน้ำในทันที เป็นระบบที่ใช้ในการป้องกันน้ำหนุนไม่ให้ท่วมเวนิส

 

“เวนิสอยู่ที่ประเทศอิตาลี เป็นเกาะอยู่ในทะเลเอเดรียติก ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกือบร้อยปีที่แล้วตั้งแต่ ค.ศ. 1930 น้ำทะเลหนุนสูง ท่วมพื้นที่ทั้งหมด โดยที่หนักก็คือปี ค.ศ. 1966 วันนั้นน้ำขึ้นสูงเกือบ 2 เมตร ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเวนิสเป็นแหล่งทำมาหากิน เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของอิตาลี ประชาชนเดือดร้อน ประเทศสูญเสีย เนื่องจากเป็นมรดกโลก เขาจึงสร้าง MOSE System เป็นระบบที่ใช้ในการป้องกันน้ำหนุนไม่ให้ท่วมเวนิส ประเทศไทยต้องเริ่มได้แล้วครับ”ดร.เอ้ กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ดร.เอ้ กล่าวว่า MOSE System ของเวนิสใช้เวลาก่อสร้างกว่า 10 ปี โดยมีความคิดที่จะทำตั้งแต่ปี 2003 กว่าจะมาเริ่มทำก็อีก 10 ปี คือ ค.ศ. 2013 เนื่องจากปัญหาการเมือง ดังนั้นการก่อสร้างประตูกั้นน้ำ ขนาดประเทศยุโรป ซึ่งถือเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังใช้เวลามากกว่า 10 ปี ประเทศไทยก็ทำได้ไม่เหนือความสามารถของวิศวกรไทย ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะไม่ใช่ปัญหาเฉพาะทางด้านวิศวกรรม มันเป็นปัญหาหลายอย่าง แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่เราจะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง ประเทศไทยทำได้แน่นอน คนไทยเก่งมีฝีมือ และห้ามหมดสิ้นกำลังใจความหวังกับประเทศไทย ห้ามหมดสิ้นความหวังกับตัวเรา ต้องเชื่อว่ามันจะต้องดีขึ้น คนไทยเก่งไม่แพ้ใครในโลก

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ดร.เอ้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และเป็นอดีตนายกสภาวิศวกร ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพและวิธีการแก้ปัญหาโดยเสนอนโยบาย “Delta Works Thailand กรุงเทพต้องไม่จมน้ำ” ซึ่งประยุกต์มาจากโครงการ Delta Works ของเนเธอร์แลนด์ ที่ประสบความสำเร็จ มาประยุกต์ให้เข้ากับบริบทในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด 3 อย่าง คือ 1.แนวคิดทางด้านกฎหมาย สนับสนุนให้มีการออกกฎหมายและมาตรการระยะยาว เพื่อช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน มีการกำหนดพื้นที่ในการป้องกันน้ำท่วมจากปัญหาน้ำทะเลหนุนในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงให้มีความชัดเจน และมีการปรับปรุงกฎหมาย ทั้งเมือง เพื่อความเป็นธรรม แก่ประชาชน

2.ด้านกายภาพ ออกแบบและดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างระบบป้องกันน้ำทะเลหนุนในพื้นที่ที่กำหนด ด้วยโครงการต่าง ๆ ตามแผนการ เช่น คันกั้นน้ำ เขื่อน  พนังกั้นน้ำ ในจุดต่าง ๆ  และประตูกั้นขนาดใหญ่บริเวณปากแม่น้ำ เพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนเข้ามาในพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ และ3.ด้านเทคโนโลยี มีการนำเทคโนโลยีระบบควบคุมอัจฉริยะโดยสอดประสาน (Synchronized) กับระบบประมวลผลพยากรณ์สภาพอากาศด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence : AI) ที่มีความแม่นยำสูงมาใช้กับโครงการ ในการควบคุมระบบประตูกั้นน้ำและระบบสูบน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและทะเลหนุนที่เกิดขึ้นอย่างรัดกุม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน Delta Works Thailand จะช่วยป้องกันพื้นที่กรุงเทพมหานครจากปัญหาน้ำท่วมที่เป็นวิกฤตของกรุงเทพในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแน่นอน สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ democrat.or.th

*******************************************

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ