S L B news : ดร.เอ้ ลงพื้นที่พญาไท รับฟังปัญหาผังเมืองใหม่ ประชาชนสุดช้ำ แนะผู้ว่าฯ ต้องจริงใจ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
วันที่ 1 มีนาคม 2567
ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ “ดร.เอ้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. พร้อมด้วยนางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค นายกิตพล เชิดชูกิจกุล อดีต ส.ก.หลายสมัย และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ปชป. รวมถึงทีม กทม. ของพรรค ชมรมกลุ่มอนุรักษ์พญาไท และเครือข่ายภาคประชาชน ลงพื้นที่ซอยอารีย์ ติดตามและรับฟังปัญหา ผลกระทบของพี่น้องประชาชนจากการจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา
แนะผู้ว่ากทม.ฯ ต้องจริงใจ อย่าเอื้อประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พร้อมเตรียมลงพื้นที่ต่อเนื่อง ยกพื้นที่อารีย์สัมพันธ์เป็นต้นแบบ สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ “ดร.เอ้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. กล่าวว่า การมาลงพื้นที่เขตพญาไท ซอยอารีย์สัมพันธ์ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ เพราะต้องการมารับฟังความคิดเห็นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 4) ซึ่งพบว่าประชาชนโดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับผังเมืองใหม่ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อย่างแท้จริงให้กับคนในพื้นที่
นอกจากนี้การเปิดรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญมากในการที่จะแก้และปรับเปลี่ยนผังเมืองที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนถือว่าน้อยมาก ไม่เป็นธรรมและไม่จริงใจกับพี่น้องประชาชน เพราะเรื่องผังเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญและยาก หน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องให้ข้อมูลและความรู้กับประชาชนก่อนเริ่มจัดทำร่างผังเมือง เพราะผลกระทบไม่ใช่เพียงแค่มิติทางสังคมเท่านั้น แต่รวมไปถึงมิติทางเศรษฐกิจและเรื่องของการมีส่วนร่วมด้วย
ศ ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า จากการรับฟัง ส.ก.ที่อยู่ในพื้นที่และกลุ่มประชาชนที่ต่อสู้เคลื่อนไหวในเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่นี้ คนที่ได้รับผลประโยชน์ไม่ใช่ประชาชนในพื้นที่นี้ หรือทั้งกรุงเทพมหานคร แต่เป็นการให้ผลประโยชน์แก่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในการพัฒนาที่ดิน สามารถสร้างอาคารใหญ่พิเศษ สูง และทำให้มีคนมาอยู่อาศัยมาก
โดยเกิดการกระจุกไม่ได้เจริญแบบกระจาย จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างบิดเบี้ยวของเมืองเพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยที่ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม และจะส่งผลกระทบไปถึงลูกถึงหลานของคนที่อยู่ในกรุงเทพมหานครทั้งหมด
“ผมเป็นอดีตกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ การจัดทำผังเมืองแต่ละพื้นที่เรื่องสำคัญที่สุดคือการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเป็นอันดับแรกก่อนออกเป็นผังเมือง และต้องแน่ใจว่าประชาชนได้รับรู้เท่าเทียมกัน ต้องวิเคราะห์รวบรวมปัญหาและผลกระทบของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ครบถ้วน แต่ปัญหาตอนนี้คือประชาชนในพื้นที่กลับไม่ได้ข้อมูลสำคัญเลย ยังไม่รู้เลยว่ามีการรับฟังความคิดเห็นที่ไหน อย่างไร ไปแล้วก็ไม่เปิดโอกาสให้ซักถาม ระยะเวลาน้อย หาข้อมูลยาก ถือว่าไม่รับฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง”ศ. ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
ศ. ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ถึงแม้วันนี้ทางผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะขยายเวลารับฟังความคิดเห็นในการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครได้ถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ก็ขอให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงและจริงใจจริงๆ ไม่ใช่ประชาชนต้องไปหาท่าน แต่ท่านต้องมารับฟังประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าการปรับเปลี่ยนจะนำไปสู่การพัฒนาและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดจริงๆ
ทั้งนี้ ศ. ดร.สุชัชวีร์ ได้ชื่นชมพลเมืองของพญาไท โดยเฉพาะพื้นที่อารีย์สัมพันธ์ที่ถือเป็น Active Citizen พูดด้วยหลักด้วยเหตุผล ข้อเรียกร้องมาจากหลักฐานข้อมูลทั้งสิ้น ไม่มีการใช้อารมณ์ ซึ่งประเทศไทยต้องการพลเมืองแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และจะใช้พื้นที่อารีย์สัมพันธ์นี้เป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการเสนอแนะการพัฒนาผังเมืองเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
***********************