เมื่อ : 14 พ.ค. 2567

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากิจกรรมของมนุษย์ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรวมถึงการทำลายพื้นที่ป่า  ซึ่งเมืองไทยเองก็มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นทุกปี โดยหน้าร้อนปีนี้ คนไทยทุกคนก็ได้สัมผัสถึงความร้อนระอุของอุณหภูมิที่เกิน 40 องศาเซลเซียสและคลื่นความร้อน (Heat Wave) ในหลายจังหวัด ซึ่งส่งกระทบผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงด้านสุขภาพอีกด้วย ซึ่งหลายๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนก็ได้เร่งออกนโยบายรณรงค์ให้คนหันมาตระหนักและปรับพฤติกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

 

ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย แอสเซทไวส์ (AssetWise) ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปลูกฝังแนวคิดเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมและการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการส่งต่อโลกและสังคมที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด GrowGreen บริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และสร้างความสุขที่ยั่งยืนให้แก่ผู้อยู่อาศัย พร้อมประกาศลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยที่สุดในทุกธุรกิจของบริษัท เพื่อเตรียมมุ่งสู่ Net Zero ในอนาคต แนวคิด GrowGreen ที่แอสเซทไวส์ ยึดมั่นปฏิบัติอย่างจริงจังนั้น มีการอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน ไปจนถึงการจับมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดเป็นโครงการด้านความยั่งยืน ที่นอกจากจะมอบประโยชน์ให้แก่ลูกค้าแอสเซทไวส์แล้ว ยังเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

แนวคิด GrowGreen ของแอสเซทไวส์ แบ่งออกเป็น 5 แกนหลัก ได้แก่

1.Green Space ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว: แอสเซทไวส์ คำนึงถึงการมอบพื้นที่อันร่มรื่นในทุกโครงการ ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ใช้ประโยชน์จากร่มเงาของต้นไม้ นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินกิจกรรมปลูกต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะ เพื่อลดอุณหภูมิให้โลก โดยปลูกต้นไม้สะสมแล้วรวม 9787 ต้น ช่วยดูดซับคาร์บอนได้ถึง 88 tCO2e หรือ 88083 KgCO2e (ข้อมูลล่าสุดปี 2023)

2. Energy Efficiency การออกแบบเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ: โครงการที่อยู่อาศัยของแอสเซทไวส์ คำนึงถึงทิศทางลมเพื่อการหมุนเวียนของอากาศและการถ่ายเทความร้อนภายในบ้าน การออกแบบเพื่อเพิ่มการใช้แสงสว่างจากธรรมชาติ ช่วยลดการเปิดไฟตอนกลางวัน รวมถึงการใช้พลังงานสะอาด ทั้งการติดตั้ง Solar Rooftop System ในหลายโครงการ เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้งยังร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง เพื่อติดตั้ง EV Charger ที่โครงการคอนโดมิเนียม อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านที่เลือกใช้รถพลังงานสะอาด โดยปักหมุดที่โครงการแอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช เป็นแห่งแรก 

 

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ Haup Car ให้บริการเช่ารถไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน ตอบโจทย์ทั้งลูกบ้านโครงการ Kave Town Space ลูกค้า Mingle Mall และพนักงานที่สำนักงานใหญ่แอสเซทไวส์

3.Waste Management จัดการของเสียอย่างเป็นระบบ-ลดปริมาณขยะ: ตลอดเวลาที่ผ่านมา แอสเซทไวส์ เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้เรื่องการแยกขยะให้ถูกต้องแก่พนักงาน ลูกค้าในโครงการ และสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันแอสเซทไวส์ได้ใช้ Concept แยก–เท-คว่ำ ในการจัดการขยะของสำนักงานใหญ่ โดยสามารถลดขยะไปหลุมฝังกลบได้มากถึง 90.39% เมื่อเทียบกับปี 2565 นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ยังเดินหน้าต่อยอดการจัดการขยะในงานต่าง ๆ เพื่อให้เป็น Zero Waste Event ซึ่งช่วยลดคาร์บอนได้ถึง 1697.4 KgCO2e (ข้อมูลล่าสุดปี 2023)

4. Clean Air มอบอากาศสะอาดทุกพื้นที่: แอสเซทไวส์ ให้ความสำคัญกับการปลูกต้นไม้ในโครงการเป็นชนิดที่ช่วยฟอกอากาศและช่วยกรองฝุ่นในพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ ยังเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ อาทิ การใช้ผนังสำเร็จรูปที่เป็นวัสดุลดการเกิดฝุ่นและการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสารฟอร์มัล
ดีไฮด์ต่ำ อีกทั้งยังมีมาตรฐานที่เข้มงวดในการลดการสร้างมลพิษทางอากาศในทุกขั้นตอนการก่อสร้างอีกด้วย

5.Water Management การใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด: แอสเซทไวส์ มีระบบ Water system Utilization เพื่อการใช้น้ำในอาคารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยออกแบบภูมิทัศน์เพื่อนำน้ำฝนกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมี Ozone Room หรือห้องบำบัดน้ำเสียด้วยเครื่องทำโอโซน เพื่อนำน้ำเสียมาหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ด้วยเช่นกัน

 

แนวคิด GrowGreen ของแอสเซทไวส์ เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่าการกระทำของทุกคนส่งผลต่อโลกใบนี้ บริษัทจึงตั้งใจคิดและดำเนินงานอย่างรอบด้านเพื่อร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีและโลกที่ดีขึ้น โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการของธุรกิจ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นได้จริงในสังคม จากกิจกรรมทั้งหมดในปี 2022-2023 บริษัทได้ช่วยลดและดูดซับก๊าซเรือนกระจกไปได้ถึง 149671 KgCO2 หรือ 150 tCO2e นอกจากนี้ ในปี 2022 แอสเซทไวส์ ยังได้รับการรับรองให้เป็นองค์กร Carbon Neutral จากองค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ในอนาคต บริษัทจะมุ่งมั่นลดการปล่อยคาร์บอนให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในปี 2030 มุ่งสู่ Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero ในปี 2065

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ