เมื่อ : 15 ก.ค. 2567

 

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ความเห็นนักข่าวที่สอบถามในฐานะเคยทำงานอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข กรณีมีแนวโน้มว่า กัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติดว่า. หากเกิดขึ้นจริงก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะในรอบ 5 ปีหลัง หลายๆสถาบัน หลายๆมหาวิทยาลัยได้มีการศึกษาวิจัยนำกัญชามาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง  ปรากฏเป็นผลิตภัณฑ์มากมาย ที่รอการต่อยอดและรับรองมาตรฐานให้สามารถใช้ในวงกว้าง หลายสิ่งหลายอย่าง จะเป็นโอกาสทั้งเศรษฐกิจและในทางการแพทย์เพื่อการดูแลสุขภาพ นี่คือทางเลือกของผู้ป่วย ทั้งนอนไม่หลับ พาร์กินสัน หรือผู้ที่มีอาการเจ็บปวด ด้วยสาเหตุต่างๆ พบประโยชน์มากมาย


หากมีการนำกลับไปเป็นยาเสพติดจริงกระบวนการเหล่านี้ก็อาจจะหยุดชะงัก องค์ความรู้ที่เรามาได้ไกลแล้ว จะสูญเปล่าทันที ไม่มีใครอยากมาต่อยอด โดยเฉพาะกับทางสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัย ที่ปกติก็มีความระมัดระวังสูงอยู่แล้วหากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเชื่อได้ว่าจะไม่มีสถาบันไหน กล้ามาพัฒนาในเรื่องนี้อีก เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวก ใครก็ตามที่คิดจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดต้องมองตรงส่วนนี้ด้วย อีกทั้งนักลงทุนและเกษตรกรจะได้รับผล
กระทบมากๆ

 

 

 

เรื่องนี้ ต้องดูกันให้รอบด้าน ทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งคุณและโทษกัญชาก็เช่นกันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้ประโยชน์จากส่วนไหน ตอนนี้หลายประเทศคลายล็อคกัญชากันออกมาใช้ประโยชน์แล้ว บางประเทศมีไทยเป็นโมเดล แล้วประเทศไทยที่เคยเป็นผู้นำเรื่องนี้ กลับเลือกเดินถอยหลังเข้าคลอง ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้มากๆ

“ จะว่าอย่างไร หากวันนี้ไทยเลือกที่จะทิ้งโอกาส แล้ววันหน้าต้องไปซื้อยากัญชาจากต่างชาติ”

มองว่าเมื่อปลดล็อคไปแล้วก็ต้องหาทางใช้ประโยชน์อะไรที่เป็นโทษก็ต้องควบคุม นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการออกกฎหมายมากำกับดูแลเพราะเราได้มีการลองผิดลองถูกกันมาในระยะหลายปี  เรารู้แล้วว่ามีช่องโหว่ตรงไหนและต้องอุดอย่างไร โดยที่ไม่จำเป็นต้องดึงกลับไปเป็นยาเสพติดเลย  ////
 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ