เมื่อ : 30 ก.ค. 2567


สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดย นาง เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นประธานในพิธีประกวดผลงานนักเรียนรอบตัดสิน และมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะ ในการประกวดคลิปวีดิทัศน์ “Meditation Clip Contest” 

 

ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนโครงการ
Meditation CFH (Calm Focus & Happiness) ลงสู่สถานศึกษาตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข”เพื่อให้สถานศึกษาได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมให้กับครูและผู้เรียนให้มีสติ มีสมาธิผ่านการฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้มีสุขภาพจิตที่แข็งแรง มีสติพร้อมที่จะรับมือกับปัญหา
ต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชีวิต รวมทั้งมีจิตใจที่เข้มแข็งต่ออบายมุขและยาเสพติด และพัฒนาการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีขึ้น
และถูกต้อง โดยมีแพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ ประธานบริหารฝ่ายแพทย์ผิวดีคลินิก และเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการร่วมชี้แจงการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการฝึกปฏิบัติเพื่อให้ครูและผู้เรียนนำหลักการมีสมาธิ มีสติ ไปปรับใช้กับสถานศึกษาของตนเอง
    

 

 

นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ.เล็งเห็นความสำคัญว่า เด็กควรได้รับการดูแลด้านจิตใจเพราจะทำให้มีเกราะป้องกัน ขอชื่นชม แพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ ที่ได้เสนอโครงการต่อกระทรวงศึกษาธิการ และได้ร่วมดำเนินการขับเคลื่อนโครงการจนสำเร็จลุล่วงและนำมาสู่การจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเฟสที่ 2 

 

จากเดิมที่ทำเป็นคลิปวอร์มอัพด้วยเพลงและการทำสมาธิร่วมกันระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง ครั้งนี้เพิ่มเติมเป็นMedttation เต็มรูปแบบ โดยให้ร่วมกันจัดทำเป็นคลิปสั้น เพื่อให้เด็กมีสติในการรับมือเมื่อต้องเจอกับการใช้ชีวิตที่วุ่นวาย แล้วนำ Meditation มาช่วย เกิดการนิ่งใน และสามารถตัดสินใจ ทำอะไรได้โดยไม่ประมาท ถือ
เป็นการเติมพลังเชิงบวกที่จิตใจและจะติดตัวเขาไปตลอด เราทำทั้ง 3 ระดับคือ ประถม มัธยม และมัธบมปลาย
 

 “ สิ่งที่อยากเห็นก็คือ อยากให้เด็กนำเรื่อง Meditation ไปใช้ในการดำรงชีวิต คุณครูและคนทั่วไปก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะ Meditation จะทำให้เกิดสติ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง เมื่อไปเจอกับสิ่งแวดล้อมใดๆ ถ้าเขามีภูมิต้านทานในชีวิต เขาจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง เป็นการเรียนดีมีสุขได้ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ”
   

 

 

แพทย์หญิง กุหลาบ จิตต์มิตรภาพ  ผู้ริเริ่มโครงการ Meditation CFH เปิดเผยว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้เห็นประโยชน์จากการทำสมาธิช่วยให้จิตใจสบายมีความสุขมีพลังที่จะทำทุกอย่างให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ที่สำคัญสามารถผลักดันตัวเองให้ทำในสิ่งที่ทำยากได้ด้วย และในเวลาที่ไม่มีกำลังใจการทำสมาธิทำให้จิตใจสงบลง สามารถทงานที่อยากทำเรียนหนังสือที่อยากเรียนได้ดีที่สุด แนวคิดนี้ได้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความเห็นชอบผ่านมาแล้ว 2 ท่านคือ นางสาวตรีนุช เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบัน 
   

“ในต่างประเทศมีงานวิจัยรองรับว่า การทำ Meditation เป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมการใช้สมาธิโดยเอาจิตมาเฝ้าสังเกตลมหายใจเข้าออก ด้วยใจที่เป็นกลางเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอครั้งละ 10 นาที
ฝีกปฎิบัติทุกวันจะช่วยทำให้จิตนิ่ง สงบ มีสมาธิ และมีความสุขมากขึ้น ขณะนี้มีการฝึกปฏิบัติในหลายประเทศ เช่น อินเดีย มาเลเซีย เบลเยี่ยม โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาครูและผู้เรียนให้มีความสุข มีสมาธิในการเรียน มีสุขภาพจิตที่แข็งแรง มีสติพร้อมจะรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งยังมีจิตใจที่เข้มแข็งต่ออบายมุขและยาเสพติด และพัฒนาการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้ดีขึ้นผ่าน
การฝึกปฏิบัติการมีสติเพื่อ
เกิดปัญญาอย่างสมำ่เสมอและถูกต้อง ”

 

 

 

สำหรับการประกวดคลิปในโครงการ มีผลงานคลิปวีดิทัศน์ส่งเข้าคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 167 ทีม จาก 123 เขตพื้นที่การศึกษา แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา จำนวน 83 ทีม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 49 ทีม และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 35 ทีม 

 

ซึ่งผลการตัดสินรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา ชื่อผลงาน ”ชีวิตที่ว้าวุ่น...
ใช้สติสมาธิค้ำจุน ช่วยหาทางออกได้” โดยโรงเรียนวัดบ่อกรุ “คุรุประชาสรรค์” สังกัด สพป.สุพรรณบุรี เขต 3
 

ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อผลงาน ”เด็กวัด” โดยโรงเรียนบ้านศรีเมือง สังกัด สพป.อุดรธานี เขต 3
 

และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ชื่อผลงาน ”รู้สติ จิตสงบ” โดยโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย สังกัดสพม.ลพบุรี
ทั้ง 3 ระดับ ได้รับโล่พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา จำนวน 40000 บาท 

 

ผลการตัดสินรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ใน 3 ระดับชั้น ได้แก่ ชื่อผลงาน ”10 นาที ดีกว่าที่คิด” โดยโรงเรียนบ้านกาวะ สังกัด สพป.นราธิวาส
เขต 2 ชื่อผลงาน ”แค่เข้าใจ (Just Love Me)” โดยโรงเรียนศรีมหาโพธิ สังกัด สพม.ปราจีนบุรี นครนายก และชื่อผลงาน ”ชีวิตแบบใด” โดยโรงเรียนชาติตระการวิทยา สังกัด สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ทั้ง 3 ระดับ ได้รับโล่
พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา จำนวน 30000 บาท 

 

ผลการตัดสินรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ใน 3 ระดับชั้นได้แก่ ชื่อผลงาน ”วัยใส วัยสติ” โดยโรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม สังกัดสพป.อุบลราชธานี เขต 1 ชื่อ
ผลงาน ”ว่าไงวัยรุ่น” โดยโรงเรียนตากพิทยาคม สังกัด สพม.ตาก และชื่อผลงาน ”วงจรชีวิต ของ Homo
sapiens” โดยโรงเรียนสันติคีรีวิทยาคม สังกัด สพม.เชียงราย ทั้ง 3 ระดับ ได้รับโล่พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา จำนวน 20000 บาท และ

 

ผลการตัดสินรางวัลชมเชย ทั้งสิ้น จำนวน 9 รางวัล ได้แก่ ชื่อผลงาน”ใช้สมอง นั่งสมาธิ (ใช้หมอง นั่งมาธิ)” ”ใจเย็นได้ด้วยสมาธิ” ”สตินำทาง” ”ไอ แฮฟ สติ” ”พอใจ” ”Meditation
“วัยว้าวุ่น”” ”หลักตอ” ”The relax ปลด ปล่อย วาง” ”Second “วินาที””

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ