เมื่อ : 27 ส.ค. 2567

 

 นายณรงค์ศักดิ์  พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่าประธานหอการค้าไทย-จีน  ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ บนเวทีสหประชาชาติ ณ เมืองเซินเจิ้น

“การเพิ่มการจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน -การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน”

 

นายณรงค์ศักดิ์  ชี้แจงว่า การเดินทางเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ได้รับเชิญร่วมแสดงวิสัยทัศน์ หัวข้อว่าด้วย “การเพิ่มการจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และวิธีการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน” ร่วมกับวิทยากรจากองค์กรภาคเอกชนต่างๆอีก 4 คน  จึงเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงบทบาทของหอการค้าไทย-จีน บนเวทีสหประชาชาติ

 

 

 

 

สำหรับประเด็นความร่วมมือทางธุรกิจและการค้าระหว่างไทยและจีนสามารถนําไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในอาเซียนได้อย่างไร นั้น อาจกล่าวได้ว่า ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเป็นมิตรมาอย่างยาวนาน และทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันอย่างแข็งขันในหลายด้าน เช่น การค้า การลงทุน และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และจีนได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย ติดต่อกันเป็นเวลา 12 ปี และจีนยังเข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงเป็นอันดับต้นๆของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

 

เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนมีส่วนสำคัญ ความทันสมัยของจีนและการส่งเสริม ”Belt and Road Initiative : BRI” คุณภาพสูง ความสำเร็จและการเปิดทางรถไฟจีน-ลาว รวมถึงการที่ไทยและจีนกําลังส่งเสริมการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในส่วนของประเทศไทยอย่างแข็งขัน คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ  

 

 

 

 

การเปิดและการดำเนินการของรถไฟจีน-ลาวได้ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ลงอย่างมาก  ลดต้นทุนการขนส่ง  สร้างเงื่อนไขที่สะดวกยิ่งขึ้นในการไหลเวียนของสินค้าและผู้คน  และช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆของประเทศสมาชิกอาเซียน เช่น ไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น และยังสร้างแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ 

 

สำหรับผลิตภัณฑ์ของจีนเพื่อขยายตลาดเข้าสู่อาเซียน โดยเฉพาะภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้รับประโยชน์อย่างมากจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีนจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง   ท่าเรือ  และถนน ซึ่งสามารถปรับปรุงการขนส่งของประเทศสมาชิกอาเซียนได้  และเครือข่ายโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างประชาชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการบูรณาการระดับภูมิภาคและการพัฒนาเศรษฐกิจ และวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน
          

 

 

ปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบการจีน เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน  ยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอื่น ๆ  โดยการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตด้วยการนำเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอาเซียน และตลาดโลก

 การลงทุนของจีนในประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ โดยเฉพาะในภาคพลังงาน การผลิตและการเกษตร สามารถนําเงินทุนและเทคโนโลยีมาสนับสนุนการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจท้องถิ่น จะมีบทบาทเชิงบวกในความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคและการยกระดับอุตสาหกรรม 

ภายใต้โอกาสและเงื่อนไขที่เอื้ออํานวยต่าง ๆ เป็นที่คาดการณ์ได้ว่าความร่วมมือระหว่างไทยและจีนในหลายด้าน เช่น การแลกเปลี่ยนทางธุรกิจและการค้า การลงทุน การก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม  การท่องเที่ยว พลังงานใหม่ เทคโนโลยีชั้นสูง อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ฯลฯ  มีศักยภาพและโอกาสที่สดใสไม่จํากัด และการค้าระหว่างไทยและจีนสามารถส่งเสริมการกระจายเศรษฐกิจและการขยายตลาดของประเทศในอาเซียน มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนอย่างยั่งยืน

นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน และนักธุรกิจจีนในประเทศไทยจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจ การค้า การลงทุน เพื่อการมีส่วนร่วมในการสร้างประชาคมจีน-อาเซียนที่มีอนาคตร่วมกัน   นายณรงค์ศักดิ์  กล่าว

 

สถิติการค้าระหว่างประเทศจีน และอาเซียน (6) ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2567

หน่วย: ล้านเหรียญสหรัฐ

   
ประเทศมูลค่าการค้ารวมการส่งออกการนำเข้า
อาเซียน (6)552089.7 ( 7.7%)331884.6 ( 10.8%)220205.1( 3.2%)
เวียดนาม145067.1 ( 20.9%)91171.1 ( 22.3%)53896.0 ( 18.7%)
มาเลเซีย117518.1( 10.8%)56496.2 (12.7%)61021.9 (9.1%)
ไทย75966.8 ( 2.9%)48256.5 ( 9.8%)27710.3 (-7.3%)
สิงคโปร์64517.9 ( 1.2%)46126.2 ( 1.0%)18391.6 ( 1.6%)
อินโดนีเซีย80498.3( 1.5%)41523.6 ( 11.8%)38974.7 (-7.6%)
ฟิลิปปินส์41155.2(-1.7%)30486.0 (-1.6%)10669.2 (-2.2%)

          แหล่งข้อมูล: ศุลกากรจีน      

         

สำนักงานหอการค้าไทย-จีน

โทรศัพท์ 02-675 8587 02-675 8577-84

โทรสาร 02-212 3916-7