เมื่อ : 16 ต.ค. 2567

 

LogiMAT Southeast Asia 2024 จัดตั้งแต่วันที่ 16-18 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค ฮอลล์ 100 ภายใต้แนวคิด “Man & AI Work Together”
• ตอบโจทย์การเติบโตในธุรกิจโลจิสติกส์ด้วยผู้จัดแสดงกว่า 108 แบรนด์ ผู้เข้าร่วมงานกว่า 6000 คน พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจรวม 6 หัวข้อ Key Highlights
 

• คาดการงาน 3 วัน สร้างเงินสะพัดกว่า 1200 ล้านบาท ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 55700 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ให้ก้าวไปสู่หนึ่งในศูนย์กลางโลจิสติกส์โลก
 

 

 

เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ LogiMAT Southeast Asia 2024 (โลจิแมท เซาธ์อีสท์ เอเชีย) งานแสดงสินค้าชั้นนำด้านโลจิสติกส์แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แนวคิด “Man & AI Work Together” รองรับการเติบโตธุรกิจสู่ตลาดนานาชาติตลอด 3 วัน ตั้งแต่ 16-18 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค 

 

พื้นที่สร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อศักยภาพกว่า 6000 คน การจัดแสดงจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 111 แบรนด์ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมกิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ อัปเดทเทรนด์ ไอเดีย และแรงบันดาลใจด้านโลจิสติกส์โดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากทั้งในไทยและนานาประเทศ รวม 6 หัวข้อ Key Highlights คาดสร้างเงินสะพัดกว่า 1200 ล้านบาท

 

นายโรแลนด์ ไบลน์รอธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานบริษัทเมสเซ่ สตุ๊ตการ์ท กล่าวว่าการจัดงานแสดงสินค้าให้ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือที่ดีจากพันธมิตรหลายฝ่าย 

 

โดยปีนี้ไดรับความร่วมมือจาก สมาคมไทยอินทราโลจิสติกส์ หอการค้าไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) Logistics & Supply Chain Management Society (LogiSYM) และพันธมิตรอื่นๆ ทุกท่านที่ร่วมมือกับเรา 

 

งาน LogiMAT SEA 2024 ปีนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคในด้านโซลูชันโลจิสติกส์ขั้นสูง เราจะได้เห็นว่านวัตกรรมเหล่านี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร พร้อมทั้งรับชมนวัตกรรมและโซลูชันต่างๆ จากประเทศไทย สิงคโปร์ จีน เยอรมนี อิตาลี และประเทศอื่นๆ
 

 

นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการและรองประธาน โคโลญเมสเซ่ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “ความสำเร็จของงานในปีนี้ โดยเฉพาะการเปิดตัวของ LogiFOOD Showcase และ LogiMAT-LogiSYM Cold Chain Thailand 2024 เน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นของโลจิสติกส์และการเชี่ยวชาญด้านโซ่ความเย็นในภูมิภาคนี้”
 

 

นายภูมินทร์  หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่าทางหอการค้าไทยมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน LogiMAT Southeast Asia 2024 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

 

โดยปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “Man & AI Work Together” ซึ่งการผสาน AI เข้ากับการบริหารจัดการจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน ในการขยายธุรกิจและเครือข่าย อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดโลก เรามั่นใจว่างานนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไทยและนำไปสู่ความสำเร็จและการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

 

ซึ่งในปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นพื้นที่ศักยภาพ ที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์แห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ในด้านอาหารและการเกษตร (Food and Agriculture Logistics) เส้นเลือดทางเศรษฐกิจหลักของภูมิภาค ทำให้การขนส่งที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรและอาหารสด โดยเฉพาะการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) จึงมีการเติบโตที่รวดเร็ว ในด้านอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Logistics) ที่ได้ผลกระทบทางบวกจากการขยายตัวของธุรกิจค้าขายออนไลน์ โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ทำให้การขนส่งสินค้าออนไลน์มีการเติบโตที่รวดเร็วตามไปด้วย เช่น การจัดการคลังสินค้า และบริการจัดส่งที่รวดเร็ว (Last-mile delivery)


 

 

นอกจากนี้ ด้วยเทรนด์ธุรกิจทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้โลจิสติกส์สำหรับห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน (Sustainable Supply Chain Logistics) รวมถึงโลจิสติกส์แบบคาร์บอนต่ำ ได้ถูกนำมาใช้ในหลายองค์กรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อวัตถุประสงค์ลดก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการขนส่ง ทั้ง การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดสำหรับยานพาหนะขนส่ง เช่น รถไฟฟ้า เรือขนส่งที่มีการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมไปถึงมีการนำระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมาใช้ (Energy-efficient Logistics) 

 

ซึ่งช่วยวางแผนเส้นทางขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการใช้พลังงานไปพร้อมกัน

ด้วยศักยภาพด้านโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ครอบคลุมในทุกด้าน ทำให้งาน LogiMAT Southeast Asia 2024 มีการรวมตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนยานยนต์ อาคารและการก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย อีคอมเมิร์ซ การศึกษา ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน สินค้า FMCG อาหารและเครื่องดื่ม เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์แต่งบ้าน เครื่องแต่งกายและสิ่งทอ โลหะ ยาและโรงพยาบาล เครื่องทำความเย็นและห่วงโซ่ทำความเย็น ผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ผู้ค้าปลีก-ส่ง รวมถึงเวทีอีเว้นต์ต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การอัปเดทเทรนด์ ไอเดีย และแรงบันดาลใจด้านโลจิสติกส์โดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากทั้งในไทยและนานาประเทศ

คาดว่า LogiMAT Southeast Asia 2024 จะมีเงินสะพัดในงานรวมกว่า 1200 ล้านบาท พร้อมเป็นแรงเสริมสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีแนวโน้มมูลค่ารวมสูงกว่า 55700 
ล้านดอลลาห์สหรัฐ ภายในปี 2025 นี้
 

 

นางสาวศิริพร ศิลธร ผู้อำนวยการโครงการฯ เสริมต่ออีกว่า สำหรับในประเทศไทยเอง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ของภูมิภาคฯ ก็ได้มีการนำเอาโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive Logistics) มาใช้อย่างแพร่หลาย เช่นเดียวกับอีกกลุ่มโลจิสติกส์ศักยภาพสูงอย่าง 

 

การใช้เทคโนโลยีใหม่ (Technology-driven Logistics) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการด้านต่าง ๆ อาทิ ระบบอัตโนมัติ (Automation) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือการใช้โดรนในการขนส่ง ในงานนี้ จึงตอบสนองธุรกิจที่กำลังก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการนำ AI เข้ามาช่วยสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในแง่การทำงานและการลดต้นทุน ภายใต้แนวคิด 
‘Man & AI Work Together’

“แนวความคิดนี้ ได้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นรูปธรรม โดยการนำหุ่นยนต์เข้ามาทำงานร่วมกับคน ทั้งช่วยขนย้าย จัดเก็บ และดึงสินค้าแบบอัตโนมัติ โดยใช้จุดแข็งที่สามารถยกสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ส่งต่อให้คนทำงานตามจุดต่าง ๆ เพื่อลดภาระคน จากเดิมที่ต้องเดินเข้าออกในคลังสินค้ากว่า 10 กิโลเมตรต่อวัน ทำให้คนไม่เหนื่อยและลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ลง โดยมีซอฟต์แวร์และ AI ช่วยควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์อีกทอดหนึ่ง นับเป็นการแสดงความพิเศษของคลังสินค้าแบบอัจฉริยะและระบบการจัดการสินค้า ที่จับต้องได้จริง”