เริ่มแล้ว งาน “คอสเม็กซ์” วงการความงามห้ามพลาด วันนี้ถึง 3 พ.ย. 2565 ร่วมฉีกกรอบความงามแบบไร้ขอบเขตกับนวัตกรรมล้ำๆ ในทุกมิติของอุตสาหกรรมความงาม
งาน “COSMEX” เริ่มแล้ววันนี้ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ ขนนวัตกรรมล้ำ ๆ จากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมความงามกว่า 500 ราย มาร่วมกันฉีกกรอบความงามแบบไร้ขอบเขตที่คนชมงานได้กำไรเพราะจัดคู่กับงาน “in-cosmetics Asia” จับทั้งกลุ่มผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์ และคนอยากมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตนเอง ชมงานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 3 พ.ย. 2565 นี้ที่ไบเทค
นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าแห่งอาเซียน ที่สร้างสรรค์งานแสดงสินค้าให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรม เปิดเผยว่างาน “คอสเม็กซ์” (COSMEX) งานแสดงเทคโนโลยีการผลิต ผู้รับผลิต และบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ครบครันที่สุดในอาเซียน ที่ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “Beauty Beyond Boundaries” หรือ “คุณค่าความงามไร้ขอบเขต” และจัดขึ้นพร้อมกันกับงาน “อิน-คอสเมติกส์ เอเชีย” (in-cosmetics Asia) งานแสดงส่วนผสมผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายชั้นนำแห่งเอเชียแปซิฟิก ได้เปิดให้เข้าชมงานกันแล้วในวันนี้ และจะมีให้ชมไปจนถึงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10:00 – 18:00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (BITEC)
“กลุ่มผู้แสดงสินค้าที่มาร่วมงานกับเราในปีนี้รวมทั้งสองงานเป็นจำนวนกว่า 500 บริษัท ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่อยู่ในกระแสปัจจุบันมานำเสนอภายในงานนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการในวงการอุตสาหกรรมความงาม รวมถึงผู้สนใจอยากมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามเป็นของตนเอง สามารถเลือกคู่ค้าเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจได้อย่างง่ายดายในงานนี้ ซึ่งอุตสาหกรรมความงามเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง เพราะความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล จะทำให้เกิดช่องว่างให้แบรนด์ใหม่แจ้งเกิดในตลาดได้มากขึ้น อีกทั้งช่องทางการขายแบบออนไลน์ที่เข้าถึงตัวผู้บริโภคได้โดยตรง ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สามารถทำการตลาดได้ไม่แพ้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ที่อยู่มานานในตลาด และหากผลิตภัณฑ์ใหม่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรง ก็จะทำให้สามารถทำยอดขายได้ดีไม่แพ้เครื่องสำอางแบรนด์เช่นกัน” นางวราภรณ์กล่าว
นางสาวมนทิรา พรประสิทธิ์ Technical Director บริษัท ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด หนึ่งใน OEM รายใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมความงามกล่าวว่าเทรนด์ของเครื่องสำอางในปี 2566 จะยังคงเกาะกระแส Clean Beauty อย่างต่อเนื่อง ซี่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะมีวงขอบเขตขยายไปถึงเรื่องของส่วนผสมที่ไม่มีอันตรายต่อโลก รวมไปถึงการนำกากจากอุตสาหกรรมอื่นมาสกัดสารบางอย่าง เช่น การนำเปลือกส้มจากอุตสาหกรรมอาหารมาสกัดเป็นสารเพิ่มความขาวในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เป็นต้น
นอกจากนี้อีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจและน่าจับตามอง คือเทรนด์ของ Skinimalism หรือการลดขั้นตอนการบำรุงผิว ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนมีความเร่งรีบ จึงลดขั้นตอนการใช้ครีมบำรุงผิวลง ทำให้การดูแลผิวไม่ซับซ้อน และยังลดค่าใช้จ่ายในการดูแลผิวลงด้วย ทำให้เครื่องสำอางกลุ่ม Hybrid หรือประเภท All in one จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น เช่น ครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติของการต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความขาว และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว หรือโฟมล้างหน้าที่สามารถลบเครื่องสำอางและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ในเวลาเดียวกัน เป็นต้น
สำหรับส่วนผสมที่จะได้รับความนิยม ผู้บริโภคจะเน้นส่วนผสมที่ให้คุณประโยชน์ชัดเจน เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยผู้บริโภคจะสืบค้นข้อมูลที่ปัจจุบันหาได้ง่ายทางอินเตอร์เน็ต และศึกษาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องสำอาง และจะเกิดพฤติกรรมการมุ่งหาเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมตามที่ต้องการมากกว่าการมุ่งหาเครื่องสำอางตามแบรนด์ โดยส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ได้รับการยอมรับและผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่น มีหลายรายการ เช่น สารที่ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผิว สารที่ช่วยลดริ้วรอย ลดการระคายเคือง กระชับผิว กระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน สารที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ฯลฯ
นายเอนก เขมพาณิชย์กุล Design Director บริษัท ไทยฮูเวอร์อุตสาหกรรม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ออกแบบงาน Packaging กล่าวว่า เทรนด์ของ
packaging เครื่องสำอางในปัจจุบันจะเป็น Eco Friendly and Sustainable Cosmetic Packaging บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยั่งยืนต่อปัจจุบันและอนาคต และใช้ทรัพยากรโลกอย่างคุ้มค่า ในส่วนของไทยฮูเวอร์เอง ปีนี้จะนำเสนอนวัตกรรม Mono Material Packaging ที่เป็นนวัตกรรมการเลือกใช้วัสดุเพียงชนิดเดียวในการผลิต แต่ยังคงคุณสมบัติการใช้งานได้เทียบเท่าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุในการผลิตหลากหลายชนิด เพื่อให้ง่ายต่อกระบวนการรีไซเคิล และนวัตกรรม Refillable Packaging ที่นำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ เพื่อลดขยะพลาสติก โดยทั้งสองนวัตกรรมดังกล่าวเป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองเทรนด์ eco cosmetics packaging ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้
คุณศุภรัฐ โชติกุลธนชัย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ผลิตภัณฑ์เอชพี อินดิโก้และอิงค์เจ็ตเว็บเพรส โซลูชั่น กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์
บริษัท เอช พี อิงค์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีดิจิทัลพริ้นท์ที่ทาง HP นำเสนอในปีนี้ จะทำให้ลูกค้าสามารถผลิตงานบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยระดับ International Brand แต่สามารถสั่งผลิตได้ในจำนวนน้อย ซึ่งความพิเศษของงานคือ สามารถดูปรู้ฟงานพิมพ์บนวัสดุจริงได้ สามารถทำ promotion โดยใช้ QR Code ที่ไม่ซ้ำกันในบรรจุภัณฑ์ เพิ่มการพิมพ์แบบกันปลอม และ function Track & Trace รวมถึงมีสีพิเศษให้เลือกได้หลากหลายมากขึ้น และเป็นสีที่เหมาะสมสำหรับใช้ในวงการเครื่องสำอาง เช่น สีชมพูสะท้อนแสง
ภายในงาน คอสเม็กซ์ นอกจากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และเนื้อหาที่อยู่ในกระแสความสนใจในปัจจุบันแล้ว ยังมีการจัดสัมมนาโดยวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการเครื่องสำอางที่น่าสนใจอีกหลายหัวข้อ อาทิ “เทรนด์เครื่องสำอางไทย ก้าวไกลไปตลาดโลก” “ถอดรหัสดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง พิชิตใจผู้บริโภคยุคใหม่” และ “จับให้ได้ ไล่ให้ทัน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค” รวมถึงกิจกรรมเวิร์คชอป แต่งหน้าครีเอทลุคสวยสุขภาพดี โดยเมคอัพอาร์ติส และยูทูปเบอร์ชื่อดัง เจ้าของช่องยูทูป “เชื่อชัย” คุณชัย ปิลันธน์ ศรีวีระกุล “ลองเปลี่ยนแปรงแล้วจะปัง” โดยคุณนินิว - นิภารัตน์ ครูสอนแต่งหน้าชื่อดัง และ “Tips and Tricks in Melasma Therapy” สำหรับการผลิตเวชสำอางที่รักษาฝ้า โดยนายแพทย์ธาดา เปี่ยมพงศ์สานต์ บริษัท คอส มิน่า จำกัด
งาน “COSMEX” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.00-18.00 น.ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยงาน COSMEX จัดขึ้น ณ ฮอลล์ 100 งาน in-cosmetics Asia จัดขึ้น ณ ฮอลล์ 101-104 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2686 7222 อีเมล: contactcenter@rxtradex.com เว็บไซต์ : www.cosmexshow.com