เมื่อ : 02 ส.ค. 2568

     
วันนี้ ( 2 ส.ค.68 ) ที่ ห้องประชุมไมด้า บอลรูม โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต สมาคมธรรมาภิบาล มูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต สมาคมนักข่าวช่างภาพโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์

 

จัด”โครงการยุทธศาสตร์ชาติด้านกฏหมายกับองค์กรวิชาชีพกฏหมาย” โดยมี สว.จำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และโฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโดยมีวัตถุประสงค์ให้องค์กรวิชาชีพกฏหมาย ซึ่งถือเป็นเสาหลักของของกระบวนการยุติธรรมและธรรมาภิบาลในสังคม ได้แก่เนติบัณฑิตยสภา สภาทนายความ รวมถึงองค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุม ส่งเสริม และพัฒนานักกฏหมายให้มีคุณภาพ คุณธรรม และมีจริยธรรม รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางกฏหมายแก่ประชาชน ถือเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและประสิทธิภาพขององค์กรวิชาชีพกฏหมาย จึงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการขับเคลื่อนประเทศเพื่อให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม นิติรัฐอันดีงามต่อไป


 

 

การเปิดโครงการยุทธศาสตร์ชาติด้านกฏหมายกับองค์กรวิชาชีพกฏหมาย เริ่มด้วยนางสาวณัฎฐิณิชา ศรีจันทร์ รองประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต คนที่ 1 กล่าวรายงาน จากนั้น สว.จำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และโฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา  ให้เกียรติกล่าวเปิดโครงการท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ นักกฏหมาย และสื่อมวลชนที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก


 

 

จากนั้นเป็นปาฐกถาพิเศษโดย ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในหัวข้อ” เปรียบเทียบรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 ฉบับปี 2550 และฉบับปี 2560 ต่อด้วย Talk Show พิเศษจากอาจารย์สมชาย หนองฮี วิทยากรรายการ”สภาทอล์ค” และปาฐกถาพิเศษโดยนายพลรัตน์ จันทร์เทพ ในหัวข้อ”วิธีการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความปี 2568” และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของกิจกรรมในวันนี้ คือ การเปิดโอกาสให้ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายของแต่ละทีม ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก


ทางด้าน นางสาวณัฏฐิณิชา ศรีจันทร์ รองประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริตคนที่ 1 กล่าวถึงที่มาของ”โครงการยุทธศาสตร์ชาติด้านกฏหมายกับองค์กรวิชาชีพด้านกฏหมาย”ในครั้งนี้ว่า เป็นการยกระดับการทำงานขององค์กรวิชาชีพกฏหมายที่ทำงานในแนวทางที่ต่างกัน เราจัดทัพยุทธศาสตร์นี้ขึ้นเพื่อให้การทำงานขององค์กรวิชาชีพกฏหมายและนักกฏหมายจะประสานการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์ของสังคมไทย และประชาชนทั่วไปที่จะเข้าถึงกฏหมายได้ดียิ่งขึ้น
 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ