เมื่อ : 07 ส.ค. 2565

กรุงศรี หนึ่งในสถาบันการเงินแห่งแรกที่ได้รับคัดเลือกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยในการนำร่องทดสอบ Retail CBDC สกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชน อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินแห่งอนาคต

 

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ) ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ประกาศความสำเร็จอีกก้าวในฐานะสถาบันการเงินหลักที่จะช่วยผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ระบบการเงินแห่งอนาคต เดินหน้านำร่องทดสอบการให้บริการ Retail CBDC สกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชนเพื่อใช้งานจริงในวงจำกัดร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2565 ไปจนถึงกลางปี 2566  

 

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้านการเงินของประเทศไทยกับ เงินบาทดิจิทัลภาคประชาชน ที่ออกโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (Retail Central Bank Digital Currency หรือ Retail CBDC)  โดยเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรปกติ เป็นเงินบาทดิจิทัล ซึ่งมี serial number กำกับ  ทำให้การถือ Retail CBDC เทียบเท่ากับการถือธนบัตร อันไม่มีความเสี่ยง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล  สิ่งนี้จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานระบบชำระเงินใหม่ที่เข้าถึงง่าย มีความปลอดภัยสูง และสามารถรองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาต่อยอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากประโยชน์ที่ภาคประชาชนจะได้รับแล้ว ยังเอื้อให้ภาคธุรกิจสามารถต่อยอด และพัฒนาผลิตภัณฑ์  เพื่อเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต

 

นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคาร
กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีรู้สึกยินดีที่ได้เป็นหนึ่งในธนาคารแรกของประเทศไทยที่จะเปิดทดสอบบริการ Retail CBDC สกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชนในระยะนำร่องช่วงปลายปี 2565 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยเป็นการเปิดทดลองใช้งานในวงจำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาเพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาและขยายผลการใช้งานในระยะต่อไป โดยแผนการทดสอบ Retail CBDC ระยะนำร่องนี้ ที่กรุงศรีเข้าร่วม แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1. การทดสอบระดับพื้นฐาน (Foundation track) เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบ รวมถึงรูปแบบของการนำเทคโนโลยีมาใช้งานจริงกับประชาชนรายย่อย เป็นการทดสอบใช้ชำระค่าสินค้าบริการในพื้นที่เฉพาะ และ 2. การทดสอบระดับนวัตกรรม (Innovation track) เป็นการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่หลากหลาย เพื่อนำมาปรับปรุงการออกแบบ Retail CBDC ในอนาคตต่อไป

 

“การพัฒนา Retail CBDC เป็นเรื่องที่ธนาคารทั่วโลกให้ความสนใจ และมีศักยภาพ เนื่องจากเป็นเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ มีความปลอดภัยสูง สะดวก ค่าเงินไม่มีความผันผวน โดยหนึ่ง CBDC เท่ากับหนึ่งบาท และสามารถเปลี่ยนกลับเป็นเงินสดได้ทันที  อีกทั้งยังสามารถต่อยอดนวัตกรรมการชำระเงินใหม่ ๆ ได้ เช่น การชำระสินค้าแบบกำหนดเงื่อนไข (Programmable Payment) ซึ่งกรุงศรีเชื่อว่าจะเป็นการพลิกโฉมระบบการเงินใหม่แห่งโลกอนาคตให้กับประเทศไทย โดยกรุงศรีมีความพร้อมและจะเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินหลักที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้ประชาชนไทยได้รู้จักและเรียนรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หากมีการนำมาใช้ชำระจริงในอนาคต” นายสยามกล่าว

 

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ