เมื่อ : 13 ก.ค. 2566


10 กรกฎาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) พร้อมด้วย กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม และฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมทั้งความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพของบุคลากรด้านการวิจัยและนักวิชาการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถของการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง 
.
 

รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า บทบาทสำคัญของ สกสว. คือการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้สามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ด้วยการใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในหลายด้าน โดยมีกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สนับสนุนการขับเคลื่อน โดยเฉพาะการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ และในแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้กำหนดแผนงานสำคัญด้านการลดความยากจนและขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยพุ่งเป้าไปที่การศึกษาเป็นประเด็นสำคัญ  
.
 

 

“ความร่วมมือกับ กสศ. ซึ่งมีเป้าหมายในการทำงานด้านการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา สนับสนุนภารกิจการศึกษาวิจัยองค์ความรู้ และพัฒนาองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แล้วนำองค์ความรู้ไปใช้ลดความเหลื่อมล้ำในระบบการศึกษา สนองความต้องการทางด้านกำลังแรงงาน และการยกระดับความสามารถของคนไทย มีความสอดคล้องกับ สกสว. 

 

ดังนั้นเพื่อให้เกิดการบูรณาการและเสริมศักยภาพด้านการวิจัยและขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงระบบ จึงได้วางกรอบการทำงานร่วมกัน 3 ปี โดยจะสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ รวมถึงผลักดันข้อเสนอแนะเชิงนโยบายขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย สนับสนุนการเชื่อมโยงฐานข้อมูล องค์ความรู้ เครื่องมือ เครือข่ายการทำงาน 

 

รวมถึงพัฒนาศักยภาพ การสร้างเครือข่ายนักวิจัย นักวิชาการ และบุคลากร เพิ่มขีดความสามารถของระบบบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมให้เกิดการสร้างองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง และผลักดันการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสัมพันธ์กับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสังคมและเศรษฐฐานะของครอบครัว  

 

กองทุน ววน. มีหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการวิจัยและนวัตกรรมหลายด้าน จะช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาในองค์รวม และการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อติดตามผลรายครัวเรือนได้อย่างต่อเนื่อง”  รศ.ดร.ปัทมาวดี กล่าวทิ้งท้าย

 

ศ. นพ.วิจารณ์ พานิช ประธานที่ปรึกษาคณะทำงานบูรณาการประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ ววน. ด้านการศึกษาและการเรียนรู้ สกสว. และที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ ว่า ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของวงการศึกษาไทย เพราะกำลังมีระบบงานวิจัยด้านการศึกษาอย่างจริงจัง 

 

โดยบทบาทของงานวิจัยและนวัตกรรมเป็นการทำงานผ่านข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์  
“ระบบวิจัยที่จะช่วยกันพัฒนาขึ้น จะสร้างนวัตกรรมเชิงระบบที่เข้าใจเรื่องปฏิสัมพันธ์ในระบบการศึกษา ซึ่งหากนักสังคมศาสตร์ นักมานุษยวิทยา นักมนุษยศาสตร์ มาช่วยกันทำโจทย์วิจัยก็จะยิ่งช่วยให้เข้าถึงปัญหาระบบสังคมและเศรษฐกิจในภาพใหญ่ได้อย่างหลากหลายขึ้น เป็นประเด็นสำคัญในการเพิ่มคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ทั้งของนักเรียน ครู และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 

 

งานวิจัยแบบนี้ต้องมีเป้าใหญ่ที่ชัดเจนร่วมกัน สามารถสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนการศึกษา 
“เป้าหมายสำคัญอีกด้านหนึ่ง ก็คือยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียนและครู ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างห้องเรียนสมรรถนะสูงในมิติต่าง ๆ อย่างครบถ้วน เชื่อมั่นว่าบทบาทของงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มคุณภาพการศึกษา คือการทำให้ข้อมูลหลักฐานกระจ่างชัดและครอบคลุมปัญหาสำคัญให้ครบถ้วนที่สุด กระบวนการร่วมกันตั้งโจทย์ครั้งนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่และเป็นประเด็นสำคัญในการสร้างปัญญา สร้างความรู้ แล้วนำไปสื่อสารกับสังคม รวมถึงสื่อสารไปถึงผู้ดูแลเรื่องนโยบายการศึกษา” ศ.นพ. วิจารณ์ กล่าว 
.

 

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวว่าความร่วมมือของ กสศ. และ สกสว. จะช่วยส่งเสริมกันในหลายมิติ โดยเฉพาะการสร้างคานงัดสำคัญในการทำให้เด็กเยาวชนไทยหลุดจากกับดักความยากจนข้ามชั่วรุ่นตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 9 และหมุดหมายที่ 12 ในการทำให้ประเทศไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความยากจนข้ามรุ่นเป็นอุปสรรคสําคัญที่ทําให้ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลาง 
.
ทั้งนี้ ภายใต้กรอบการทำงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ กสศ. จะสนับสนุนองค์ความรู้ ฐานข้อมูลความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และต้นแบบนวัตกรรมระดับพื้นที่ และเครือข่ายวิชาการเพื่อร่วมกับ สกสว. ในการกำหนดโจทย์วิจัยสำคัญและสนับสนุนให้เกิดการทำงานวิจัย การจัดการความรู้จากงานวิจัย และการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่นำไปสู่การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา 

 

รวมทั้งเชื่อมการทำงานและการนำต้นแบบที่ประสบความสำเร็จของ กสศ. ไปขยายผลในพื้นที่การทำงานของหน่วยบริหารและจัดการทุนภายใต้ สกสว. โดยมีประเด็นวิจัยร่วม เช่น การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาครู การจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นมีทางเลือกตอบโจทย์ชีวิต และการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ เป็นต้น 
 

“ในการขับเคลื่อนวาระความเสมอภาคทางการศึกษา กสศ. อาศัยแนวคิดของห่วงโซ่นโยบาย หรือ policy value chain เป็นกรอบการผลักดันงานวิจัยและการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งเริ่มต้นจากการใช้ข้อมูลเพื่อกำหนดโจทย์วิจัยไปสู่การทดลองปฏิบัติในพื้นที่ขนาดเล็กและการขยายผลให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น 

 

ก่อนนำผลการดำเนินงานและบทเรียนการทดลองไปขยายผลขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ดังนั้นการทำงานเพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมายองค์กรและประเทศในด้านความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จึงต้องอาศัยการบริหารจัดการข้อมูลและองค์ความรู้ที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนเครือข่ายวิชาการที่มีศักยภาพและมีความหลากหลาย” ดร.ไกรยส กล่าวสรุป
 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ