เมื่อ : 06 ธ.ค. 2565

 

พล.ต.อ.อชิรวิทย์  สุพรรณเภสัช อดีต รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายเป็นพระราชกุศล วันพ่อแห่งชาติ
    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เป็นประธานในพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์  5 รูป โดยได้รับความเมตตตาจาก“พระสุธีรัตนบัณฑิต” เจ้าอาวาสวัดสุทธิฯ เดินทางมารับกิจนิมนต์ในพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพล ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องใน วันพ่อแห่งชาติ  โดยภายในงานยังมีกิจกรรม “โรงทาน กินอาหารฟรี” ณ ร้านข้าวแกงร้อยหม้อ
       นายรัฐณกรณ์ อมรวีระวัฒน์ (ชาติพยัคฆ์) ผอ.สำนักข่าวฮอตนิวส์ไทยแลนด์ - ผู้อำนวยการ สื่อต้านอาชญากรรมยาเสพติด - อุปนายกสมาคม ช่างภาพสื่อมวลชนดิจิทัล  กล่าวว่า วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ  ตนพร้อมครอบครัว ตระหนักถึงความสำคัญของวันดังกล่าว จึงได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรม “โรงทาน กินอาหารฟรี” ณ ร้านข้าวแกงร้อยหม้อ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และได้ร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ซื่งปีนี้มีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดี และร่วมถวายภัตตาหารเพล อาทิ นายอนันต์ นาเอนก นภัสสร โตมิตะ รักษ์ ไพรวัลย์ พี่มาลัย สุพรรณ สันติชัย สายัณห์ ลายไทย และศิลปินนักร้องอีกมากมายมาร่วมขับกล่อมเสียงเพลงไพเราะ น้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ

 

ด้าน พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนรู้สึกดีใจ ที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆในครั้งนี้ ได้เห็นประชาชนคนไทยร่วมกันแสดงถึงความจงรักภักดี และน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการทำกิจกรรมครังนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคี มีความสุข แสดงออกถึงความจงรักภักดี และความกตัญญูกตเวทิตา ตลอดจนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ขอน้อมนำพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความว่า “การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลังในการสร้างเสริมและสะสมความดี” ไปใช้ในการปฏิบัติงานและชีวิตประจำวัน ตลอดจนมุ่งพัฒนาตนเอง ให้มีจิตอาสา และบำเพ็ญตนให้เกิดประโยชน์ แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ สืบไป